คลังบทความของบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

• มีข้อความ BIOS ROM CHECK SUM ERROR ตอนเปิดเครื่อง

อาการนี้ส่วนใหญ่เกิดจากถ่านของ BIOS หมดหรือเกิดการหลวมครับ ให้ลองขยับถ่านให้แน่น ๆ ดูก่อน ถ้าไม่หายก็ต้องลองเปลี่ยนถ่านบนเมนบอร์ดดู (ก่อนเปลี่ยนถ้ามี Meter วัดไฟดูก่อนก็ดี) หลังจากเปลี่ยนแล้วให้ทำการ Clear BIOS Jumper ก่อนด้วย จะเป็น Jumper ใกล้ ๆ กับ IC BIOS นั่นแหละ ทำการ Jump ค้างไว้สัก 5 วินาทีแล้วก็ Jump กลับที่เดิมก่อน หลังจากนั้นต้องเข้าไปตั้งค่าต่าง ๆ ของ BIOS ใหม่ด้วย

• หลังจาก Setup Windows จะขึ้นข้อความ Windows Protection Error

ที่พบบ่อย ๆ มากคือปัญหาของ RAM อาจจะเป็นเฉพาะช่วงที่ทำการ Setup Windows เท่านั้น (โดยที่ปกติก่อน Setup Windows จะใช้งานได้ ไม่เป็นอะไร) ให้ทดลองหา RAM มาเปลี่ยนใหม่ดู หรือหากเป็น SDRAM ให้ทดลองตั้งค่าใน bios ค่าของ CAS จากที่ตั้งเป็น 2 ลองตั้งเป็น 3 ดู อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง

• หลังจาก Setup Windows ใหม่แล้วเกิดการค้าง ไม่ยอมทำการ Setup ต่อไป

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สิ่งหนึ่งที่พบบ่อย ๆ คือการตั้งค่า Virus Warning ใน bios ไว้ทำให้เครื่องไม่สามารถ เขียนข้อมูลทับลงบนส่วนของ boot record ของฮาร์ดดิสก์ได้ ให้ลองแก้ใน bios ตั้งให้เป็น Disable ไว้ก่อน และหลังจากทำการ Setup Windows เสร็จแล้วค่อยตั้งเป็น Enable ใหม่

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

ลองคลิกNewton's Cradle (ตรงลูกตุ้ม)

P2P Streaming TV

Peer to Peer Distribution
ในปัจจุบัน วิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการส่งวิดีโอ ภาพและเสียง คือ การส่งแบบ Streaming จากผู้ให้บริการหรือเจ้าของสถานี ส่งมายังผู้ชมผ่านทางอินเตอร์เน็ต เช่น จากเว็บ TrueWorld.net เราก็ไปเลือก content ที่อยากดูแล้วทาง TrueWorld.net ก็จะส่ง content ด้วยวิธีที่เรียกว่า Streaming มายังคอมพิวเตอร์ของเราโดยตรง (เป็นแบบ One to One เพราะผู้ชมแต่ละคนอยากดูรายการที่ไม่เหมือนกัน และจะเป็นแบบ One to Many/Broadcast ถ้าทุกคนดูรายการเดียวกัน ซึ่งโดยรวมแล้วเรียกด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ยุคโบราณ คือ Client-Server) แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันมากในเมืองนอก คือ การส่งแบบ Peer to Peer
เราๆ ท่านๆ หลายคนคงรู้จักคุ้นเคยกับ Napster , Kazaa หรือจะเป็น Bit Torrent (ที่เพื่อนๆนิด้าใช้โหลดไฟล์ข้อสอบต่างๆจากคอมผมน่ะแหล่ะ) วิธีนี้ เป็นการส่งผ่านข้อมูลแบบช่วยกันโหลด ช่วยกันส่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะดู DVD ซักเรื่อง ไฟล์ของหนัง DVD โดยเฉลี่ยจะมีขนาดประมาณ 2-4.7 GB ถ้า เป็นวิธีการแบบ Streaming คนที่อยากจะดูจะต้องเข้าไปทำการเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ส่งข้อมูลของสถานี หรือผู้ให้บริการ เพื่อโหลดข้อมูลขนาด 4.7GB ที่ว่า ถ้าคนดูมีแค่คนเดียว ระบบที่ว่าคงรองรับสบายๆ แต่ถ้าคนดูซักห้าหมื่นคนล่ะ ระบบของทางผู้ให้บริการคงไม่เพียงพอที่จะรองรับ ผม ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนคนต่อคิวรอจ่ายเงินซื้อของที่โลตัส แม้โลตัสจะใหญ่โต มีแคชเชียร์จ่ายเงิน 40 ช่อง (เสมือนมีระบบที่ใหญ่โตทั้ง Server และ Network) ถ้าวันไหนเกิดมีโปรโมชั่นลด 90% ทั้งห้าง ต่อให้ขยายช่องจ่ายเงินเป็น 80 ช่อง หรือ 160 ช่อง (เหมือนซื้อ Server มาเพิ่มเยอะๆเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น) ผมคิดว่าก็คงยังไม่สามารถรองรับปริมาณคนที่จะมาซื้อของที่ลดราคาเหมือนได้ ฟรีได้หรอกครับ

แต่ถ้าเราตั้งแคชเชียร์ย่อยๆ ให้อีกคนจ่ายเงินกับอีกคนได้ (สมมตินะครับ เอาจริงๆคงโดนโกงแน่ๆ) คิวการจ่ายเงิน คงเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเยอะ จ่ายเงินได้เร็วขึ้น ระบายคนได้เร็วขึ้น ทำให้คนที่รอซื้อของก็จะเข้ามาซื้อได้มากขึ้น

สรุป คือ การรับส่งข้อมูลแบบ Peer to Peer คือ การมีหลายๆคน ช่วยกันส่งไฟล์ใหญ่ๆที่แยกเป็นส่วนๆ แล้วแจกให้คนอื่นต่อกันไปเป็นทอดๆ เราก็จะได้ไฟล์ส่วนนี้จากเพื่อนคนนี้ อีกส่วนจากเพื่อนคนนั้น หลายๆส่วนจนถึงระดับนึงคือ ได้ครบทุกส่วนแล้ว เราก็จะนำไฟล์ส่วนๆเหล่านี้มาประกอบรวมกันเป็นไฟล์เดียว แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้




P2P TV
จากข้างบนเราเรียกรวมกันว่า Peer to Peer TV (P2P TV) ซึ่ง จริงๆไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีคนทำมาแล้วหลายเจ้า แต่ P2P TV ส่วนใหญ่ก็จะใช้ P2P โดยใช้ Bit Torrent ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และอาจจะมาแทนที่ P2P แบบเดิม ( Napster,KaZaa) แถมยังมีคนหัวหมอ เอา BitTorrentมาจับรวมการใช้ RSS ในการดึงข้อมูล สร้างรูปแบบการรับข้อมูลใหม่ๆ เรียกว่า Broadcatching (Bit Torrent+RSS)
แต่ Bit Torrent ไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานด้านรับส่งคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ คือ ขาด Quality of Service (QoS) ทำให้ข้อมูลที่ส่งกันขาดสิ่งที่เรียกว่า Reliability และ Stability เช่น ดูหนังไปกระตุกไป หรือภาพและเสียงเพี้ยนไปจากความเป็นจริง Joost ได้พัฒนา protocol หรือรูปแบบการสื่อสาร แบบ P2P ขึ้นมาใหม่ โดยได้กระโดดข้ามขีดจำกัดที่เจอใน P2P TV เดิมๆที่พูดมาแล้ว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างกัน สร้างความแตกต่างในด้านเทคนิค เช่นกับที่เคยทำให้ Skype โดดเด่นมาแล้ว




People Channel P2P

สำหรับระบบ P2P Streaming ของ People Channel นั้นได้เริ่มต้นจากการที่ประสปกับปัญหาหลายๆด้านทั้งในเรื่องจำนวนของผู้รับ ชมพร้อมกันมากทำให้เซิฟเวอร์ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากมี การใช้งานแบนวิธที่สูงจนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ปัญหาที่เกิดคือทำให้ผู้รับชมรายการในบางช่วงไม่สามารถรับชมรายการสดทาง อินเตอร์เน็ตได้หรืออาจจะกระตุกจนดูไม่ได้. ในสถานการฉุกเฉินหรือมีการประกาศสภาวะฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะมีคำสั่งทางกฎหมายให้ระงับการแพร่สัญญาณการแพร่ภาพหรือข้อมูลข่าว สารใดๆที่เป็นปฎิปักกับรัฐบาล ซึ่งการแพร่ภาพผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยอาจจำเป็นต้องระงับการแพร่ ภาพ ด้วยปัญหาเหล่านี้ทำให้เรานำระบบ P2P Streaming มาใช้ซึ่งซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากการรับส่งข้อมูลเป็นระบบ แชร์แบนวิธซึ่งยิ่งมีผู้ชมจำนวนมากระบบก็จะยิ่งเสถียรมากเพราะมีผู้ช่วยส่งต่อสัญญาณเพิ่มขึ้น ระบบการสื่อสารแบบนี้จะไม่สามารถหาผู้ที่ส่งสัญญาณเป็นคนแรกได้เนื่องจากจะใช้เครื่องเซิฟเวอร์ที่แพร่สัญญาณอยู่ในต่างประเทศ และผู้ที่รับสัญญาณจะเป็นผู้ส่งต่อสัญญาณเช่นกัน และการรับชมก็ไม่สามารถรับชมได้ปกติจำเป็นต้องติดตั้ง Software เพิ่มแล้ว Add ช่องสัญญาณลงไปจึงจะสามารถรับชมได้และเป็นระบบ Private ด้วยซึ่งไม่ใช่สาธารณะ

Software

Software ที่ใช้รับชมทีวีออนไลน์ในระบบ P2P นั้นมีมากมายซึ่งการใช้งานจะต่างกันไป People Channel P2P Streaming นั้นสามารถรับชมได้ผ่าน Software TVU Networks ซึ่งเป็น Freeware ดาวโหลดได้ที่ http://pages.tvunetworks.com/downloads/player.html รายละเอียด Software




would be the most well known provider in this space. Copyright issues aside, there lineup of live channels is fairly solid with a range of US based content, although like most in this space, you’ll get better value from it if you speak Mandarin. I’ve used TVU previously, and again with my testing for this post; both times picture quality was flaky; audio is fine but it’s difficult to watch. It’s a service that would probably work better with a high speed internet connect, one quicker than my 2mb cable.

การใช้งานของโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อรับชมช่องตัวอย่าง เช่นช่อง People Channel
# หลังดาวโหลดมาแล้วให้ติดตั้งให้เรียบร้อย จากนั้นให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา ตามภาพด้านล่างครับ นอกจากนี้เรื่องคอมของเรายังต้องมีการติดตั้งโปรแกรม Media Player เวอร์ชั่น 10 ด้วยเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง (ระหว่างการติดตั้งโปรแกรม anti virus ของเราอาจจะรายงานว่าตรวจพบไวรัสหรือ malware ซึ่งเป็นการรายงานที่ผิดพลาด ให้เราวางใจได้ว่าโปรแกรม TVU เป็นฟรีแวร์ที่ได้บการทดสอบว่าใช้งานได้จริงและไม่มีไวรัสปนเปื้อนแน่นอน ครับ)

# สังเกตุทางด้านซ้ายจะมีช่องให้ใส่ Keyword ชื่อช่องรายการ ให้ ใส่ชื่อช่อง people channel หรือใส่รหัสช่องคือ 80420 ดับเบิลคลิกที่ชื่อช่องรายการหากช่อง Online ท่านจะสามารถรับชม People Channel ได้ตามปกติ (หากสถานีส่งยังไม่ถูกปิด อิอิ)






อ้างอิง:http://www.thaipeopletv.com/p2p.php

เข้ามาแล้วให้อาหารHamster ด้วยนะครับ

7 ทิปส์เด็ดๆ ของ Windows 7



1. สลับเปลี่ยนไปยังหน้าต่างที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

ใน กรณีที่ผู้ใช้งานเปิดไฟล์จำนวนหลายๆ ไฟล์จากโปรแกรมเดียวกัน อย่างเช่น โปรแกรมไมโครซอฟท์ เวิร์ด วินโดวส์ 7 จะช่วยให้คุณสับเปลี่ยนระหว่างหน้าต่างได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงแค่กดปุ่ม Ctrl ในขณะคลิกที่ไอคอนบนทาสก์บาร์ หน้าต่างก็จะเปลี่ยนเป็นหน้าต่างถัดไป โดยคุณสามารถเลือกเปิดหน้าต่างที่คุณต้องการได้

2. กำหนดขนาดของหน้าต่างตามความต้องการของผู้ใช้งาน

วินโดวส์ 7 ช่วยให้การจัดการเอกสารและโปรแกรมต่างๆทำได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถกำหนดขนาดของหน้าต่างได้โดยการเลือกคลิกเมาส์ หรือ ใช้แป้นพิมพ์ หากต้องการขยายหน้าต่างให้มีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของหน้าจอ ผู้ใช้งานเพียงแค่ลากหน้าต่างไปชนกับหน้าจอทางด้านซ้าย หรือ ขวา และหน้าต่างนั้นก็จะมีขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของหน้าจอทันที ในกรณีที่ต้องการขยายขนาดของหน้าต่างนั้นให้เต็มหน้าจอ ผู้ใช้งานเพียงแค่ลากหน้าต่างไปด้านบนของจอเพื่อขยายหน้าต่างให้เต็มจอ หรือ ดับเบิ้ล คลิก ที่มุมด้านบน หรือด้านล่างของหน้าต่างเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดของหน้าต่าง ในขณะที่หน้าต่างนั้นยังมีความกว้างเท่าเดิม

ผู้ใช้งานยังสามารถกำหนดขนาดของหน้าต่างได้โดยใช้แป้นพิมพ์ ดังต่อไปนี้

windows 7 + ลูกศรซ้าย และ windows 7 + ลูกศรขวา เพื่อขยายหน้าต่างให้มีขนาดครึ่งหนึ่งของหน้าจอ

windows 7 + ลูกศรบน และ windows 7 + ลูกศรล่าง เพื่อขยายและลดขนาดของหน้าต่าง

windows 7 +ลูกศรบน และ windows 7 + ลูกศรล่าง เพื่อขยายหน้าจอ หรือ ปรับหน้าจอให้มีขนาดเท่าเดิม
3. เชื่อมต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์ได้อย่างง่ายๆ

เพียง แค่เชื่อมต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์ ผู้ใช้งานก็จะสามารถแสดงข้อมูลที่ต้องการบนโปรเจคเตอร์ได้อย่างง่ายดายด้วย ปลายนิ้วเพียงแค่มีไดรเวอร์ของวินโดวส์ 7 อย่าง displayswitch.exe เมื่อผู้ใช้งานกดปุ่ม windows 7 + P หน้าต่างในการควบคุมโปรเจคเตอร์ก็จะปรากฏขึ้นมาโดยทันที
windows 7

เมื่อเลื่อนลูกศร หรือ กดปุ่ม windows 7 + P ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกรูปแบบการทำงานที่ต้องการได้ อาทิ clone, extend หรือ external only


4. จัดการกับการแสดงผลบนจอมอนิเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ

วินโดวส์ 7 ช่วยให้การทำงานกับจอมอนิเตอร์หลายมอนิเตอร์มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น ในกรณีที่ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องทำงานกับจอมอนิเตอร์มากกว่าหนึ่งจอ ผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์บอร์ด windows 7 + Shift + ลูกศรซ้าย และ windows 7 + Shift + ลูกศรขวา ในการสลับการแสดงผลระหว่างจอมอนิเตอร์ได้

5. แอบดูเดสก์ท็อปได้ด้วย Aero Peek

เครื่อง มือที่มีประโยชน์มากในวินโดวส์ 7 ที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักกันนักก็คือ Windows® Aero® Feature ที่เรียกว่า Aero Peek โดยผู้ใช้งานเพียงแค่คลิกที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมล่างขวามือของทาสก์บาร์ จากนั้นหน้าเดสก์ท็อปก็จะปรากฏขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้โดยใช้ปุ่ม windows 7 + Space


6. หมดปัญหากับเรื่องยุ่งยากด้วย Aero shake

วินโดวส์ 7 ช่วยขจัดความวุ่นวายของการเปิดหน้าต่างหลายๆ หน้าต่างภายในเวลาเดียวกันนอกเหนือไปจากหน้าต่างที่คุณกำลังทำงานอยู่ได้ เพียงแค่จับที่ด้านบนของหน้าต่างที่คุณต้องการทำงานแล้วเขย่าไปมา หรือกดปุ่ม windows 7 + Home ผู้ใช้งานก็จะสามารถลดขนาดของหน้าต่างอื่นๆที่ไม่ได้ใช้งานลงได้ทันที หากผู้ใช้งานต้องการให้หน้าต่างกลับมามีขนาดเท่าเดิมก็สามารถทำได้เพียง เขย่าหน้าต่างที่ทำงานอยู่ หรือแค่กดปุ่ม windows 7 + Home อีกครั้ง

7. ใช้ Help Desk จัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

การ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์อาจเป็นเรื่องยุ่งยากทั้งกับผู้ใช้งานและ Help Desk นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ วินโดวส์ 7 หาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย Problem Steps Recorder เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกปัญหาที่พวกเขาพบในแต่ละขั้นตอนได้ อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกที่เมนู record จากนั้นจึงเพิ่มข้อคิดเห็นที่ต้องการลงไป ไฟล์ HTML ดังกล่าวก็จะเปลี่ยนเป็นไฟล์ .ZIP ในทันที ซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อไปยัง Help Desk ทำได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่เมนูดังกล่าวได้จาก Control Panel ภายใต้คำสั่ง ‘Record steps to reproduce a problem’ หรือ เปิดโปรแกรม psr.exe จาก Explorer
ข้อมูลจาก : Microsoft Media Newsletter

short key หรือคีย์ลัดในการใช้ Windows 7 ครับ

Windows 7 ได้โชว์ลูกเล่นใหม่ๆของ Windows 7 ซึ่งเป็นทริปเล็กๆ เลยเอามาเล่าบอกต่อครับ ส่วนมากก็เป็น short key หรือคีย์ลัดในการใช้ Windows 7 ครับ

มาดู key ลัดสำหรับการเรียกใช้โปรแกรมที่อยู่ taskbar ครับ ดูตามรูป จะเห็นว่ามีโปรแกรมที่อยู่ตรงนั้น 5 โปรแกรม หากเราอยากเรียกใช้โปรแกรมตัวใดก็กดปุ่ม Windows+หมายเลข เช่นผมอยากเปิด MSN ผมก็กดปุ่ม Windows+4 ที่ keyboard โปรแกรม MSN ก็จะรันขึ้นมาครับ


ทริป windows 7 ต่อไปเป็นการอะไรดีละเรียกไปถูก เอาเป็นว่ามันคือการจัดหน้าต่างที่รันอยู่ว่าต้องการใช้อยู่มุมซ้ายหรือขวา บนหรือล่าง โดยเราสามารถทำได้โดยกดปุ่ม Windows+ลูกศรขึ้นลงซ้ายขวา ที่ keyboard ครับ

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

30 ทริคเล็กน้อยเกี่ยวกับคอมพ์


1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น

2. ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น

3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ

4. คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:windows ของคุณ

5. ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย

6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop

7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้

8. คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก

9. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้

10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว

11. คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter

12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar

13. ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ "con" ได้

14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณ

ในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น

15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu

16. คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Clock ออก

17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น

18. ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send

19. คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้

20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน

21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา

22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break

23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ

24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter

25. การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete

26. การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา

27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้

28. ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้

29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ

30. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare

ทะลวงบล๊อค I C T

มีอยู่ 2 วิธี ที่ใช้ง่าย แต่สามารถทะลวง Block ICT ได้ราบคาบ มาดูกัน

วิธีแรก : Torpark

Torpark เป็น Browser ที่ดัดแปลงมาจาก Firefox แต่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Tor (The Onion Router) ทำให้เราสามารถเข้าเวปต่างๆแบบไร้ตัวตนได้ รวมถึงจุดประสงค์หลักของเรา คือ ทะลวง Block ICT

เวปหลัก : http://www.torrify.com/software_torpark.html
Download : http://update.torrify.com/distro/torpark/Torpark_latest.exe

วิธีติดตั้งก็แค่คลาย zip ออก แล้วก็ใช้งานได้เลย รอมัน connect tor network สักพัก ก็ใช้งานได้ เหมือน Browser ทั่วไป ที่สำคัญคือเราสามารถเอามันใส่ USB Drive แล้วเอาออกไปเล่นเครื่องใดๆก็ใด้โดยไม่ต้องติดตั้งอีกด้วย เผื่อฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ดูวิธีแบบเชิงลึกได้ที่ blognone นะครับ

วิธีที่สอง : UltraSurf

ตัวนี้เป็นโปรแกรมครับ ใช้งานง่ายมาก Download ก็เปิดใช้งานได้ทันที ไม่ต้องติดตั้ง ไม่ต้อง Setting อะไรทั้งนั้น มีการ Update บ่อย เวลาเริ่มใช้ไม่ได้ผล ก็มีเตือนให้ Download Update มาใช้ทันที

เวปหลักกะวิธีใช้ : http://www.wujie.net/userguide.htm
Download : http://www.wujie.net/downloads/ultrasurf/u.zip

ดูวิธีใช้ในเวปเลยนะครับ ถึงจะเป็นภาษาจีนก็ใช้ไม่ยากครับ ดูรูปเอาก็ได้ เวลาเปิดโปรแกรมมามันจะ Connect Proxy เมื่อต่อติดมันก็จะเลือกที่ที่ให้ความเร็วสูงสุด แค่นั้นครับเล่นได้แล้ว ถ้าเราไม่พอใจก็เลือก Proxy ที่อื่นมี 3 อันให้เลือก หรือปิดโปรแกรมแล้วเข้าใหม่ก็ได้ หรือ Reconnect ใหม่ มันก็จะหาชุด Proxy ใหม่มาให้ แล้วก็เหมือน Torpark คือไม่ต้องติดตั้ง ดังนั้นเอาใส่ USB Drive ออกไปใช้นอกบ้านได้เลยครับ

จริงๆมีหลายวิธีนะครับ แต่ 2 วิธีนี้ผมใช้บ่อยเพราะง่ายที่สุด และที่สำคัญคือ
1.ไม่ต้องติดตั้ง ทำให้ใช้กับเครื่องนอกบ้านได้ง่าย
2.ไม่ต้อง Setting ทำให้ใช้งานได้ทันที

softpedia.com แหล่งโหลดหมาย่างล่าสุด

เว็บเจ้าของหมาย่าง mozilla.com

ปกติแล้ว เราสามารถเข้าไปตรวจเช็คหรือดาวน์โหลดหมาย่างเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ได้โดยตรงจากเว็บเจ้าของ ที่ลิงค์

หมาย เหตุ: ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ (หมาย่างตัวใหม่ล่าสุด คือ หมาย่างเวอร์ชัน 2.0.0.9 และยังมีรุ่นพิเศษให้โหลดอีก 2 เวอร์ชัน นั่นก็คือ หมาย่างเวอร์ชันอีเบย์ (Mozilla Firefox - eBay Edition) และ หมาย่างเวอร์ชันแคมปัส (Firefox Campus Edition)

เว็บรวมดาวน์โหลด

อันที่จริงแล้วหมาย่างเวอร์ชันล่าสุดก็มีแหล่งดาวน์โหลดหลายๆ ที่ กระจายไปหลายเว็บหลายประเทศ และที่เว็บ เองก็บริการดาวน์โหลดเช่นกัน แถมยังมีให้เลือกอีกหลายรุ่น มีทั้งเวอร์ชัน 3.0X / 2.0X และ 1.5.0.12 ครบถ้วนบริบูรณ์บาล์ม

หมายเหตุ: เว็บ www.softpedia.com นี้เป็นอีกเว็บรวมดาวน์โหลดฟรีแวร์ดีๆ เยอะมาก มีมากเสียจนสามารถเรียกได้ว่า Free downloads encycopedia อย่างสมความภาคภูมิ เป็นเว็บอีกแห่งหนึ่งที่อยากแนะนำเลย

My openion

หมายเหตุ: สำหรับลิงค์ที่สามารถโหลดหมาย่างตัวล่าสุดทุกรุ่น ทางเว็บ www.softpedia.com ก็ได้รวบรวมเตรียมเอาไว้ให้ (สามารถนำไปอ้างอิงที่ใดๆ ได้เลย เพราะไม่ว่าจะออกมาใหม่เวอร์ชันไหน หากมีการอัพเดทล่าสุด ก็สามารถโหลดได้จากที่ลิงค์ข้างล่างนี้)

ดาวน์โหลดหมาย่างตัวล่าสุดได้ที่นี่!!!

ความลับที่ซ่อนอยู่ในช่องแอดเดรสบาร์ (URLs Tips)

URLs Tips : ลองพิมพ์ข้อความลงในช่อง แอดเดรสบาร์ (URLs) โดยทุกคำสั่งจะเริ่มต้นคำว่า about: แล้วจะได้ผลลัพธ์บางอย่างแสดงให้เห็น

about: ? The same page as "Help -> About".
about:about ? Lists all these about: URLs (Mozilla Suite only).
about:blank ? A blank page. Useful for setting as your homepage.
about:buildconfig ? Reveals details about your Mozilla build options.
about:cache ? Displays cache statistics.
about:cache?device=memory ? Lists memory cache entries.
about:cache?device=disk ? Lists disk cache entries.
about:cache-entry ? Shows information about a cache entry. Used in about:cache links. Requires parameters.
about:config ? GUI for modifying user preferences (prefs.js).
about:credits ? The list of contributors to the Mozilla projects.
about:logo ? Displays the Mozilla logo (Mozilla Suite only).
about:license ? shows the Mozilla Public License and the Netscape Public License for the piece of software. ( Only in products based on Gecko 1.8 ).
about:mozilla ? The famous Book of Mozilla.
about:plugins ? Lists all your plugins as well as other useful information

เปิดหน้าเว็บด่วน ด้วยการใช้งานชื่อย่อตรงแอดเดรสบาร์ (Using Keywords With Firefox)

ปูพื้นฐานกันก่อน : หลายๆ คนคงเคยใช้งาน Bookmarks ที่ช่วยให้เราสามารถบันทึกเก็บเว็บเพจที่เราสนใจเอาไว้ให้เป็นระเบียบ (คล้ายสมุดบันทึกที่อยู่เว็บส่วนตัว) ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาข้อมูลใหม่อีกครั้ง ก็เก็บตำแหน่งเว็บของมันเอาไว้ซะเลย

มีหลายๆ วิธีที่จะสามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงานผ่านหมาย่าง วันนี้ก็มีทิปดีๆ อีกหนึ่งวิธี แต่จะเป็นการเรียกใช้คำสำคัญ (Keyword) ที่เรากำหนดไว้ใน Bookmarks อีกทีนึง... คราวนี้แหละ เราก็สามารถพิมพ์ชื่อย่อของเว็บที่เราต้องการเปิดได้โดยตรงจากแอดเดรสบาร์ แล้วล่ะ...

ขั้นตอนการเตรียมการ : ลองทำตามที่บอกก็แล้วกัน แล้วเวลาใช้งานมันก็จะสะดวกขึ้นอย่างมากมาย รวดเร็ว ประหยัดเวลาที่มีค่าของท่านอย่างแน่นอน แน่นอน... ลองแระ... แจ่มดีแฮะ... ขอบคุณคนคิดที่เอาความสะดวกสบาย

1. ตรงเมนู Bookmarks เลือกคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบุ๊คมาร์กซะก่อน (Manage Bookmarks...) ขอช้ จิ้งจอกเพลิง1.5.0.9 นะ หากท่านใช้หมาย่าง 2.0 ก็คงต้องหาตัวจัดการบุ๊คมาร์กเอาเองก็แล้วกัน เพราะใช้หลักการเดียวกันนั่นเอง




2. เลือกบุ๊คมาร์กที่เรามี (ในที่นี้ขอเลือกกลุ่มหรือโฟลเดอร์ที่มี ที่ชื่อว่า ก็แล้วกันนะ ส่วนของท่านหากไม่มีโฟลเดอร์ก็ไม่เป็นไร ก็ข้ามไปที่ข้อ 3 เลย)


3. คลิกขวาตรงชื่อเว็บที่เราเก็บไว้ (ขอเลือกตรง 50 Best... นะ ของท่านก็ลองเลือกดูสักอันก่อนก็ได้) แล้วคลิกซ้ายแบบธรรมดานี่แหละ เลือกตัวเลือกล่างสุดตรงที่ Properties


4. มันก็จะมีหน้าต่างการปรับค่าคุณสมบัติโผล่ขึ้นมา (Properties for...) ก็ลองหาดูนะ ช่องคำว่า Keyword: อันนี้แหละที่เป็นพระเอกของเราในคราวนี้

5. เอาล่ะ ตรงช่อง Keyword: ก็พิมพ์คำย่อๆ ที่ท่านต้องการได้เลย เอ่อ... ถ้าจะให้ดีก็เป็นข้อความสั้นๆ ที่ได้ใจความด้วยก็ดี เพราะบางทีคำสั้นเกินไปก็จำได้ยากเหมือนกัน และอาจจะซ้ำกันในภายหลังด้วย ตั้งชื่อเสร็จแล้วก็กดตรง OK ได้เลย


6. พอกดโอเคแล้ว คราวนี้ลองดูในแถวแนวตั้งของค่าตัวเลือก Keyword ดูสิ... มันจะเพิ่มคำย่อให้เราแล้ว คราวนี้... อิอิ... หากไม่ต้องสร้างคำย่อหรือคีย์เวิร์ด ต่อไปอีกแล้ว ก็ปิดหน้าต่างการจัดการบุ๊คมาร์กได้เลย (แต่หากจะทำต่อก็เพิ่มคำคีย์เวิร์ด กับทุกลิงค์ที่ต้องการ ก็ได้เลย ตามสบาย... ก็งานของท่าน ความต้องการของท่านนี่ เชิญ


7. ก็ลองพิมพ์คำย่อ (Keyword) ในช่องแอดเดรสบาร์ดูสิ แล้วมันจะจัดการเปิดลิงค์ของเราได้เลย

20 สุดยอด วิธีแก้ปัญหากวนใจชาว Windows


โอ้สวรรค์! เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ระบบ Windows เป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย ปัญหาพวกระบบค้างและบั๊กต่างๆ ที่มาคอยกวนใจเราชาว XP ก็หาได้ยากยิ่งนัก เอาล่ะ…พอเหอะ! ที่ชาวบ้านเค้าจะเผ่นหนีไปใช้ Linux หรือ OS อื่นๆ กันหมด เพราะพวกเค้าเริ่มทนไม่ได้กับปัญหาเหล่านั้นแล้วล่ะ

จริงๆ แล้วคุณก็พอแก้ปัญหาได้อยู่ใช่มั้ย? คุณมี System Restore ที่ใช้แก้ปัญหาแบบฟันฉับเดียวรักษาทุกโรค หรือถ้าอาการหนักจริงๆ ก็เสกคาถา [F8] ตูมเดียวให้ระบบเลือกบูท Last Known Good Configuration เป็นท่าไม้ตายสุดยอด

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้คุณจัดการกับเรื่องยุ่งยากทั้งหลายกับ 20 วิธีแก้ปัญหาชิวๆ ที่แม้ไม่สามารถชุบชีวิต PC ที่ขึ้นสวรรค์ไปแล้วให้กลับมาได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณสุขภาพจิตดีขึ้นบ้างล่ะน่า ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมพังหรือเน็ตเวิร์กทำงานแปลกๆ หรือเมื่อระบบไม่ยอมให้คุณใช้งานใดๆ เรารวบรวมไว้ให้คุณทั้งหมดแล้ว
1. วิธีใช้งาน CHKDISK แบบเร็ว
เมื่อแน่ใจว่าฮาร์ดดิสก์เกิดอาการเพี้ยนๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการแปลกๆ ตอนบูทเครื่อง, เปิดโปรแกรมไม่ค่อยขึ้น หรือมีข้อความแปลกๆ ไม่ได้รับเชิญปรากฎขึ้นมา คงต้องใช้ Chkdsk ที่มากับ Windows XP เพื่อสแกนตรวจหาปัญหาใน sector ของฮาร์ดดิสก์และซ่อมมันให้เรียบร้อย แม้ว่าคุณสามารถเปิดโปรแกรมได้จาก Recovery Console แต่ยังมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เพียงคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties มองหาช่องที่เขียนว่า Tools แล้วคุณจะเห็นปุ่มที่ใช้เรียกมันขึ้นมา หากคุณต้องการสแกนไดรฟ์หลัก คุณจะต้องสั่งรีบูทเครื่องหลังจากเสร็จสิ้นการสแกนด้วย


2. ส่ง Error Reporting ไม่ได้
มันเป็นฟังก์ชันที่ดีมากๆ ที่ให้เราๆ สามารถส่งข้อมูลว่าโปรแกรมไหนเสียยังไงไปให้ Microsoft ได้ แต่บางทีฟังก์ชัน Error Reporting ก็เสียซะเองนี่สิ มันเป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโปรแกรมออนไลน์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกมหรืออินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ ก็มักจะมีปัญหาระบบภายในอยู่บ่อยๆ หากต้องการให้มันหายเป็นปกติ ก็ใส่ซีดีติดตั้ง XP เข้าไปแล้วพิมพ์คำว่า sfc/scannow ตรงหน้าต่าง Run เท่านี้ก็เรียบร้อย
3. เชื่อมต่อสัญญาณเน็ตเวิร์กไร้สายไม่ได้
หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กไร้สายได้ทั้งๆ ที่การทำงานของ WiFi ก็บอกคุณอยู่โท่งๆ ว่ามันมีสัญญาณเต็มเปี่ยม บางทีปัญหาอาจจะมาจากโปรแกรม Wireless Zero Configuration ของอีตา Microsoft ก็ได้ ให้คุณคลิกขวาที่ My Computer เลือก Manager แล้วขยาย Services and Applications ออกมา ภายใต้ Services หาคำว่า Wireless Zero Configuration แล้วดับเบิ้ลคลิก คุณจะมาโผล่ที่แท็บ General สั่ง Stop เพื่อหยุดการทำงานของมัน รอสักครู่แล้วสั่งเปิดการทำงานของมันใหม่ driver อุปกรณ์ไร้สายน่าจะทำงานถูกต้องแล้ว และคุณก็น่าจะเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว

4. ลืมรหัสผ่าน ทำไงดี?
หากคุณทำรหัสผ่านของ User Account หาย รีบูทเข้า Safe Mode เลือก log on user เป็น Administrator ปกติ account นี้จะถูกซ่อนอยู่ (ซึ่งคุณจะได้สิทธิ์และอำนาจเป็นผู้ดูแลระบบ) และหากคุณไม่เคยสร้าง account นี้ตอนติดตั้ง XP ก็กดเข้าไปได้เลย ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน จากนั้นเปิด Control Panel แล้วสั่ง reset the User Account passwords เท่านี้ก็เรียบร้อย
5. ป้องกันการติดตั้ง driver
หากคุณต้องการเก็บ driver ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรืออยู่ในขั้นทดลองให้พ้นจากระบบของคุณ คุณก็สามารถสั่งให้ Windows XP จัดการปิดบัญชีเรื่องนี้ได้เลย ให้เปิด System Properties แล้วคลิกแท็บ Hardware และเลือก Driver Signing ที่นี่คุณสามารถสั่งปิดกั้น driver ที่ไม่ได้เรื่องทั้งหมด (หรือจะให้มีข้อความขึ้นเตือนก่อนก็ได้) สั่งให้ป้องกันทั้งระบบ หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ระบบคนอื่นๆ มาติดตั้ง driver ซี้ซั้วและอาจทำให้คุณตกที่นั่งลำบากได้



6. สำรองพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ไว้ขณะกำลังเขียนแผ่น CD/DVD
หากคุณสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เขียนแผ่น CD หรือ DVD พื้นที่ฮาร์ดดิสก์จะลดลงไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าโปรแกรมเขียนแผ่นกำลังใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บอิมเมจไฟล์ไว้ตรงไหนสักแห่งในเครื่อง PC ของคุณ ลองกลับไปดูตัวเลือกของโปรแกรมแล้วปิดคำสั่งเล่นซ่อนหาไฟล์อิมเมจนี้ซะ อ้อ! ปกติแล้วมันน่าจะเก็บไฟล์ไว้ที่ My Documents ไม่ก็ Program Files
7. หลีกเลี่ยงปัญหาตอนบูทเครื่อง
หากระบบของคุณบูทช้าแบบสุดๆ และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ งั้นลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ คุณสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้โดยไปที่ Power Options (ซึ่งอยู่ใน Display Properties ของ Screen Saver) จากนั้นเมื่อคุณคลิก Turn Off Computer ให้กด [Shift] ค้างไว้แล้วเลือก Stand By เพื่อใช้คำสั่ง Hibernate นี้



8. อยากลบไฟล์งี่เง่าที่ลบยังไงก็ลบไม่ออก
หากคุณไม่สามารถลบไฟล์ด้วยวิธีธรรมดาๆ แล้ว ให้เปิด Command Prompt แล้วเปลี่ยน path ไปให้ถึงที่ที่ไฟล์เจ้าปัญหานั้นอยู่ จากนั้นสั่งปิด explorer.exe โดยใช้โปรแกรม Task Manager เลือกแท็บ Processes กลับไปที่ Command Prompt แล้วพิมพ์ DEL เว้นวรรค ตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการลบ เสร็จแล้วก็เปิด Task Manager คลิก FileNew Task แล้วพิมพ์คำว่า explorer.exe เพื่อให้หน้าจอเดสก์ท็อปกลับมาเป็นอย่างเดิม
9. ไฟล์ไม่ได้มาตรฐานไสหัวไปให้หมด!!
อะจ๊าก! ค้างอีกแล้ว…มันเกิดอะไรขึ้น? คุณไม่เพียงแค่อยู่ให้ห่างจาก driver ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเดียวเท่านั้น ไฟล์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาได้ไม่แพ้กัน เพราะว่าระบบ PC มีการออกแบบที่ดีเยี่ยม (จริงแล้วห่วยสุดๆ ) แบบว่าไฟล์ระบบอาจถูกทับโดยการติดตั้งโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่างๆ หรือไม่ก็อาจถูกอัพเดทจากโปรแกรมหรือ malware ตัวร้ายได้เสมอ ดังนั้นคุณอาจต้องสแกนฮาร์ดดิสก์ของคุณแม้ไม่อยากทำเลยก็ตาม เพียงคลิก Run แล้วพิมพ์ sigverif โปรแกรม File Signature Verification ก็จะเปิดขึ้นมา ให้คุณคลิก Start เพื่อเริ่มทำงานได้เลย อย่าลืมเตรียมแผ่นติดตั้ง XP ไว้ให้พร้อมด้วยนะ

“หากระบบของคุณบูทช้า และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ ลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ”



10. ไดรฟ์ CD/DVD หายไปไหนแว้ว!?
เพราะว่า Windows XP มีเรื่องที่ต้องจดจำเยอะแยะไปหมด ฉะนั้น…บางทีเฮียเค้าเลยเกิดอัลไซเมอร์รับประทาน ลืมไดรฟ์ CD/DVD ของคุณไป แม้ว่ามันจะเห็นอยู่ทนโท่ใน Device Manager ก็ตาม ในกรณีนี้ให้คุณเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY-LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentConstrolSetControlClass{4D36E965-E325-11CE-EBC1-08002BE10318} แล้วลบค่าใน UpperFilters กับ LowerFilters ออกไป จากนั้นรีบูทเครื่อง 1 ครั้ง คุณต้องติดตั้งโปรแกรมเขียนแผ่นใหม่ด้วยแหละ…ซวย 2 ชั้นของจ
11. ไฟล์/โฟลเดอร์นี้…ฉันจอง
ถ้าหากคุณไม่สามารถทำอะไรกับไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่อยู่ใน Windows XP ได้ เนื่องจากอาจมีใครใช้อยู่ที่ไหนสักแห่ง คุณอาจต้องติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของไฟล์/โฟลเดอร์ไว้ โดยคลิกขวาที่ไฟล์/โฟลเดอร์ที่ต้องการแล้วเลือก Properties จากนั้นเลือก Security, Advance และ Owner ตามลำดับ ตรงรายชื่อให้คุณเลือก username ของคุณ (หรือ Administrator ถ้ามี) เสร็จแล้วเลือก Replace owner on subcontainers and objects



12. ยกเลิกการทำดัชนีไฟล์ (File Index)
หากคุณไม่ได้มีความจำเป็นเลิศเหมือนพวกปากหอยปากปู และปกติคุณก็ใช้โปรแกรม Search ในการค้นหาเฉพาะไฟล์เอกสารกับรูปภาพยุคพระเจ้าเหาแค่นั้น การทำดัชนีไฟล์ดูจะเป็นการใช้ทรัพยากรระบบที่มากเกินไปจนทำให้อะไรๆ ช้าลงไป ถ้าอยากจะปิดมัน…ง่ายมาก เพียงเปิด My Computer คลิกขวาที่ไอคอนฮาร์ดดิสก์ เลือก Properties ให้ดูที่แท็บ General แล้วคุณจะเห็นตัวเลือกการทำดัชนีไฟล์ ให้สั่งปิดมันไปเลย…จบ
13. Firewall ที่น่ารำคาญ
หาก Firewall ที่ติดตั้งมากับ Windows ทำให้คุณประสาทเสียและคุณก็ไม่รู้จะปิดมันจาก control Panel ยังไง (เพราะว่าตัวเลือกที่จะปิด มันเป็นสีเทาอยู่น่ะสิ) ให้คุณเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ net start SharedAccess ไม่ต้องมีเครื่องหมายคำพูดนะ และกลับกัน…หากคุณต้องการปิดมันก็ให้พิมพ์ net stop SharedAccess



14. อย่าใช้ Super Prefetch เลยคุณ
ไอ้ที่เค้าคุยไว้ว่าจะมีฟังก์ชันที่เข้ามาช่วย registry ให้สามารถทำงานได้เร็วฟ้าผ่า ด้วยเทคโนโลยี Super Prefetch ที่มีเฉพาะ Service Pack 2 กับ Windows Vista น่ะ ขี้โม้สุดๆ เลยคุณ เพราะแม้ว่าจะปรับ registry ไปแล้ว ระบบของคุณก็ยังทำงานช้าเป็นเต่าอยู่ดี เว้นแต่คุณจะสั่ง defrag ไฟล์ Prefetch ซะก่อน เพียงเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ defrag c: -b
15. Logon ให้เร็วขึ้น
Autoexec.bat เป็นไฟล์ที่ใช้สั่งให้โปรแกรมทำงานตอนบูทเข้าระบบ Windows แต่ก็ไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะว่า Windows XP ทำงานด้วยขั้นตอนที่ต่างไปจากเดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายโปรแกรมที่ยังมีไฟล์นี้อยู่ และบางทีก็อาจทำให้การเข้าระบบเร็วขึ้นก็ได้ งั้นอย่ารอช้า รีบเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindows NTCurrentVersionWinlogon แล้วสร้างหรือแก้ไขค่าของ ParseAutoexec DWORD ให้เป็น 0 จากนั้นรีบูทเครื่องดู



16. ปิดเครื่องแล้วค้าง ทำไงดี?
ถ้าคลิก Shut Down แล้วอีก 20 นาทีต่อมาเครื่องของคุณยังค้างอยู่ แถมยังเจอปัญหาว่า Adobe Reader เพี้ยนไปแล้ว ปิดไม่ลงจ้า!! คงน่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร ให้คุณไปจบชีวิตเพี้ยนๆ ของมันที่ RegEdit และเข้าไปเปลี่ยนค่าของ HKEY_USERSDEFAULTControl PanelDesktopAutoEndTasks ให้เป็น 1 ค่านี้จะทำให้ Windows XP หลับหูหลับตาปิดข้อความแจ้งปัญหาที่จะทำให้ระบบของคุณทำงานช้าลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งหมด
17. ปัญหาโปรแกรมไม่เสถียร
ถ้าอยู่ๆ โปรแกรมที่เคยใช้งานดีๆ เกิดดื้อแพ่ง ระเบิดตัวเองหรือค้างแหง่กๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่าไฟล์ .dll ของมันเองอาจทำงานไม่เรียบร้อยตอนที่คุณเลิกใช้โปรแกรมนั้นๆ พอนานเข้า ก็เลยยิ่งไม่เสถียรหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่าแล้วก็เปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindowsCurrentVersionExplorer แล้วสร้างค่า DWORD ที่ชื่อว่า AlwaysUnloadDll ขึ้นมาใหม่ แล้วตั้งค่าให้เป็น 1



18. ล้างบางข้อมูลตอนติดตั้งโปรแกรม
เมื่อเวลาติดตั้งโปรแกรมผิดพลาดและคุณไม่สามารถติดตั้งใหม่ได้ (มักมีอะไรบางอย่างผิดปกติจนทำให้เกิดความผิดพลาดในซอฟต์แวร์ Java) ดังนั้นคุณจะต้องเอาไฟล์เน่าๆ ที่ค้างอยู่ในเครื่อง PC ของคุณตอนติดตั้งครั้งแรกออกไปซะก่อน แต่ถ้าจะมานั่งหาเองคงไม่หมู เพราะไฟล์ส่วนใหญ่จะหลบอยู่ตามหลืบต่างๆ ทางที่ดีควรใช้โปรแกรม Windows Installer CleanUp จัดการให้ดีกว่า คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้ที่ support.microsoft.com/kb/290301 แล้วใช้มันสแกนหาเศษซากไฟล์ที่เหลืออยู่ติดตั้งเพื่อให้คุณลบมันทิ้งไปเอง
19. Defragment สะดุด…ทำไงดี?
ถ้าเกิดโปรแกรม Defragment ที่ติดมากับ Windows ทำงานอืดลงกว่าเมื่อก่อน หรือไม่ยอมทำงานให้คุณเลย อาจเป็นเพราะว่ามี sector ในฮาร์ดดิสก์เสียจนทำให้ระบบหยุดการทำงานก็เป็นได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากไฟล์สำรองที่โปรแกรมเว็บบราวเซอร์เก็บไว้ทำ cache เป็นตัวก่อปัญหามากกว่า วิธีง่ายๆ ที่จะเขี่ยไฟล์เหล่านี้ออกไป ก็เพียงแค่ใช้โปรแกรม Chkdsk ก่อนทุกครั้งที่จะใช้โปรแกรม Defragmenter ก็เท่านั้น



20. ครั้นจะปิดโปรแกรม Outlook มันช่างยากเย็นกว่าที่คุณคิด…
หากคุณใช้ Outlook 2003 อยู่ ก็คงเห็นไอคอนโปรแกรมอยู่ตรง system tray และมันก็ยังทำงานไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าคุณจะสั่งปิดโปรแกรมไปแล้วก็ตาม แบบว่ามันยังตรวจเช็คอีเมลอยู่ แต่ไม่ยอมให้คุณใช้งานมันแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้คุณใช้ Task Manager สั่งจับตายทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Outlook ให้หมด จากนั้นค่อยเปิด Outlook ใหม่แล้วคลิก Tools, Options, Other, Advanced Options และเลือก COM Add-ins ตามลำดับ พวกโปรแกรมเสริมที่เห็นนี้คือโปรแกรมยี่ห้ออื่น (เช่น ตัวสแกนไวรัส) และหากโปรแกรมเหล่านี้ยังทำงานอยู่ตอนที่คุณสั่งปิดโปรแกรมไป (แบบว่ายังสแกนอีเมลของคุณอยู่) โปรแกรมนั้นก็จะยังทำงานที่ค้างอยู่ต่อไป ดังนั้นให้คุณยกเลิกการใช้ Add-ins นี้ทีละอันจนกว่าคุณจะเจอว่าโปรแกรมไหนที่สร้างปัญหาให้คุณ

explorer.exe Windows process คืออะไรกันแน่


หลายๆคนคงเคยได้ยินคำถามที่ว่า

* explorer.exe คืออะไร?
* explorer.exe มันเป็นไวรัส, สปายแวร์ หรือเปล่า?
* ทำไม Windows ไม่แสดงหน้าจอ Desktop, ปุ่ม Start , Taskbar และ File Manager?
* explorer.exe กับ Internet Explorer มันเป็นตัวเดียวกันเหรอ?
วันนี้จะมาบอกเล่า แจ้งแถลงไขกันเกี่ยวกับเจ้า explorer.exe นี้
จริงๆแล้วเจ้า explorer.exe คือ Windows process ตัวหนึ่ง ซึ่งเป็น System process ที่เป็นโปรแกรมจัดการ Windows และเป็นหนึ่งในหลายๆ System process ของระบบปฏิบัติการ Windows ที่ถูกสั่งให้ทำงานอยู่หลังบ้าน (Background process นั่นเองครับ) โดยชื่อเต็มๆของมันก็คือ Microsoft Windows Explorer นั่นเองครับ
ทั้งนี้เจ้า explorer.exe กับ Internet Explorer(process name คือ iexplore.exe) มันเป็นคนละตัวกันนะครับ อย่าได้เข้าใจผิด ไปคิดว่ามันเป็นตัวเดียวกันนะครับ

หน้าที่ของ explorer.exe
หน้าที่หลักๆของเจ้า explorer.exe ก็ได้แก่
1. เป็นตัว Windows Graphic Shell เพื่อจัดการและค้นหา เรียกดู Drive, ไฟล์, โฟลเดอร์ ต่างๆ
2. เป็นตัวที่แสดงหน้าจอ Desktop, ปุ่ม Start , Taskbar
ซึ่งถ้าเราทำการ remove process explorer.exe นี้ออกไปจาก task manager แล้วหล่ะก็ เราจะไม่เห็นและไม่สามารถใช้งาน หน้าจอ Desktop, ปุ่ม Start , Taskbar รวมถึงตัวจัดการและค้นหา เรียกดู Drive, ไฟล์, โฟลเดอร์ ซึ่งก็คือเจ้า File Manager ที่ส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยในชื่อ My Computer นั่นแหล่ะครับ
ตำแหน่งที่อยู่ของ explorer.exe
โดยทั่วไป เจ้าไฟล์ explorer.exe นี้ จะถูกเก็บไว้ที่ %windir% ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ c:windows นั่นเองครับ ถ้าอยู่นอกนั้นให้คิดไว้เลยว่า มันคือ ไวรัส, สปายแวร์, โทรจัน, หรือนอนอินเตอร์เน็ต ครับ ซึ่งสามารถใช้โปรแกรม Security Task Manager (ฟรี) ตรวจสอบได้ ยกตัวอย่างไวรัสที่ effect กับ explorer.exe เช่น

* W32.MyDoom.B - Symantec Corporation และอื่นๆ เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเจ้า explorer.exe
สามารถทำการแก้ไขปัญหาได้ดังนี้
- ระยะสั้น
ให้ กดปุ่ม Ctrl+Shift+Esc เพื่อเปิดโปรแกรม Task Manager ให้ดูที่แท็บ Processes และเลื่อนหา Image Name ชื่อว่า “explorer.exe” >> คลิกเลือก แล้ว End Process มันออกไป
จากนั้นให้ไปที่เมนู File >> New Task (Run…) จากนั้นในช่อง Open ให้พิมพ์ว่า explorer.exe หรือ explorer ก็ได้ครับ จากนั้นกดปุ่ม OK หรือจะ Enter ก็ได้ครับ รอสักครู่ จากนั้นก็จะเป็นการเรียกใช้งาน แล้ว ปุ่ม Start, Taskbar และ Desktop ก็จะกลับมาแล้วครับ
- ระยะยาว
หาโปรแกรม Utility สำหรับตรวจเช็ค และ Fix error ที่เกิดขึ้น โดย
1. ใช้ Security Task Manager สำหรับตรวจสอบ process ของ explorer.exe
2. ใช้ Registry Booster เพื่อ Fix error และปัญหาที่เกิดขึ้นกับ explorer.exe
3. ใช้ Spyware Doctor เพื่อ remove malware ที่ก่อกวน explorer.exe ที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
หรือใช้โปรแกรม Process Explorer เรียกและตรวจสอบดูได้ครับ ว่ามี process อะไรที่รัน ทำงานอยู่ ที่มี effect กับ “explorer.exe”
แต่ถ้าทำตามข้างต้นแล้วยังไม่หาย คงต้องพึ่งการลง Windows ซ่อม หรือรวมไปถึงการ format เครื่องแล้วลงใหม่ละครับ ซึ่งนั่นก็ น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วหล่ะครับ

วิธีตรวจสอบ Serial No. ของโปรแกรม



ind Serial No.
วิธีตรวจสอบ Serial No. ของโปรแกรม

การติดตั้งโปรแกรมโดยทั่วไป ส่วนใหญ่โปรแกรมจะให้เข้าใส่ Serial No. หรือ เรียกเป็นทางการว่า เลขที่รับอนุญาติ ในการใช้โปรแกรม บางครั้งถ้าเราลืม แต่ได้มีการติดตั้งโปรแกรมนั้น ๆ เข้าไปแล้ว เราสามารถดูหมายเลข Serial No. ของโปรแกรมเหล่านั้นได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1.คลิกเมนู Start เลือก Run
2.พิมพ์คำว่า regedit
3.คลิกเลือก HKEY_LOCAL_MACHINE
4.คลิกเลือก Software
5.จากนั้นให้เลือก software ที่เราต้องการดู
6.หน้าต่างทางขวา ให้ดูข้อความ Serial No.


7.บางโปรแกรม Serial No. จะอยู่ ที่ HKEY_CURRENT_USER และอยู่ใน sub Software เช่นเดียวกันใช้งานได้กี่วันส่วนมาก 15-30 วัน หากต้องการใช้งาน
เกินกว่ากำหนด เริ่มขั้นตอนกันเลย

1. ให้คลิกปุ่ม Start ->Run
2. พิมพ์คำสั่ง c:/windowsregedit..exe เพื่อเปิดโปรแกรม Registry Editor ขึ้นมา
3. คลิก File ->Export เพื่อทำสำเนาข้อมูล Registry ของวินโดวส์
4. จะมีหน้าต่างเพื่อบันทึกไฟล์ ขึ้นมาในช่อง save in : เลือกเป็น My Decuments คลิ๊กเลือก All ตรงกรอบ Export range
จากนั้นพิมพ์ชื่อไฟล์ในช่อง File Name _____ . reg File of type : Registraration File ( *.reg ) แล้วกด Save
5. เมื่อครบกำหนดตามระยะการใช้งานโปรแกรมจะไม่สามารถ ใช้งานได้
6. ให้ไปที่ Start ->Run พิมพ์คำสั่ง c:/windowsregedit..exe เพื่อเปิดโปรแกรม
7. จากนั้นไปที่ File -> Import
8. ให้ไปที่ช่อง Look in: เลือก My Decuments เพื่อคลิกชื่อไฟล์ที่เราทำสำเนาเอาใว้ ในขั้นตอนที่ 4. ___________.reg
9. จากนั้นคลิกปุ่ม Open เป็นอันเสร็จโปรแกรมที่เราไม่อยากเสียเงินก็ได้คืนชีพอีกครั้ง

รวมคำสั่ง Run ที่ใช้ทั้งหมด




เรียกโปรแกรม Accessibility Options —> access.cpl
เรียกโปรแกรม Add Hardware —> hdwwiz.cpl
เรียกโปรแกรม Add/Remove Programs —> appwiz.cpl
เรียกโปรแกรม Administrative Tools control —> admintools
ตั้งค่า Automatic Updates —> wuaucpl.cpl
เรียกโปรแกรม Bluetooth Transfer Wizard —> fsquirt
เรียกโปรแกรม เครื่องคิดเลข (Calculator) —> calc
เรียกโปรแกรม Certificate Manager —> certmgr.msc
เรียกโปรแกรม Character Map —> charmap
เรียกโปรแกรม ตรวจสอบดิสก์ (Check Disk Utility) —> chkdsk
เรียกดูคลิปบอร์ด (Clipboard Viewer) —> clipbrd
เรียกหน้าต่างดอส (Command Prompt) —> cmd
เรียกโปรแกรม Component Services —> dcomcnfg
เรียกโปรแกรม Computer Management —> compmgmt.msc
เรียกดู/ตั้ง เวลาและวันที่ —> timedate.cpl
เรียกหน้าต่าง Device Manager —> devmgmt.msc
เรียกดูข้อมูล Direct X (Direct X Troubleshooter) —> dxdiag
เรียกโปรแกรม Disk Cleanup Utility —> cleanmgr
เรียกโปรแกรม Disk Defragment —> dfrg.msc
เรียกโปรแกรม Disk Management —> diskmgmt.msc
เรียกโปรแกรม Disk Partition Manager —> diskpart
เรียกหน้าต่าง Display Properties control desktop —> desk.cpl
เรียกหน้าต่าง Display Properties เพื่อปรับสีวินโดวส์ —> control color
เรียกดูโปรแกรมช่วยแก้ไขปัญหา (Dr. Watson) —> drwtsn32
เรียกโปรแกรมตรวจสอบไดร์ฟเวอร์ (Driver Verifier Utility) —> verifier
เรียกดูประวัติการทำงานของเครื่อง (Event Viewer) —> eventvwr.msc
เรียกเครื่องมือตรวจสอบไฟล์ File Signature Verification Tool —> sigverif
เรียกหน้าต่าง Folders Options control —> folders
เรียกโปรแกรมจัดการ Fonts —> control fonts
เปิดไปยังโฟลเดอร์ Fonts (Fonts Folder) —> fonts
เรียกเกม Free Cell —> freecell
เปิดหน้าต่าง Game Controllers —> joy.cpl
เปิดโปรแกรมแก้ไข Group Policy (ใช้กับ XP Home ไม่ได้) —> gpedit.msc
เรียกโปรแกรมสร้างไฟล์ Setup (Iexpress Wizard) —> iexpress
เรียกโปรแกรม Indexing Service —> ciadv.msc
เรียกหน้าต่าง Internet Properties —> inetcpl.cpl
เรียกหน้าต่าง Keyboard Properties —> control keyboard
แก้ไขค่าความปลอดภัย (Local Security Settings) —> secpol.msc
แก้ไขผู้ใช้ (Local Users and Groups) —> lusrmgr.msc
คำสั่ง Log-off —> logoff
เรียกหน้าต่าง Mouse Properties control mouse main.cpl
เรียกหน้าต่าง Network Connections control netconnections —> ncpa.cpl
เรียกหน้าต่าง Network Setup Wizard —> netsetup.cpl
เรียกโปรแกรม Notepad —> notepad
เรียกคีย์บอร์ดบนหน้าจอ (On Screen Keyboard) —> osk
เรียกหน้าต่าง Performance Monitor —> perfmon.msc
เรียกหน้าต่าง Power Options Properties —> powercfg.cpl
เรียกโปรแกรม Private Character Editor —> eudcedit
เรียกหน้าต่าง Regional Settings —> intl.cpl
เรียกหน้าต่าง Registry Editor —> regedit
เรียกโปรแกรม Remote Desktop —> mstsc
เรียกหน้าต่าง Removable Storage —> ntmsmgr.msc
เรียกหน้าต่าง Removable Storage Operator Requests —> ntmsoprq.msc
เรียกดู Policy ที่ตั้งไว้ (ใช้กับ XP Home ไม่ได้) —> rsop.msc
เรียกหน้าต่าง Scanners and Cameras —> sticpl.cpl
เรียกโปรแกรม Scheduled Tasks control —> schedtasks
เรียกหน้าต่าง Security Center —> wscui.cpl
เรียกหน้าต่าง Services —> services.msc
เรียกหน้าต่าง Shared Folders —> fsmgmt.msc
คำสั่ง Shuts Down —> shutdown
เรียกหน้าต่าง Sounds and Audio —> mmsys.cpl
เรียกเกม Spider Solitare —> spider
แก้ไขไฟล์ระบบ (System Configuration Editor) —> sysedit
แก้ไขการตั้งค่าระบบ (System Configuration Utility) —> msconfig
ตรวจสอบระบบด้วย System File Checker Utility (เริ่มทันที) —> sfc /scannow
ตรวจสอบระบบด้วย System File Checker Utility (เริ่มเมื่อบู๊ต) —> sfc /scanonce
เรียกหน้าต่าง System Properties —> sysdm.cpl
เรียกหน้าต่าง Task Manager —> taskmgr
เรียกหน้าต่าง User Account Management —> nusrmgr.cpl
เรียกโปรแกรม Utility Manager —> utilman
เรียกโปรแกรม Windows Firewall —> firewall.cpl
เรียกโปรแกรม Windows Magnifier —> magnify
เรียกหน้าต่าง Windows Management Infrastructure —> wmimgmt.msc
เรียกหน้าต่าง Windows System Security Tool —> syskey
เรียกตัวอัพเดตวินโดวส์ (Windows Update) —> wupdmgr
เรียกโปรแกรม Wordpad —> write

ซ่อนทุก Drive ไม่ให้ใครมองเห็น




หากว่าเครื่องที่คุณใช้อยู่ มีคนใช้งานมาก แล้วเกรงว่าจะมีใครมาเปิดดูข้อมูลสำคัญ ๆ คุณสามารถกำหนดขนาดพื้นที่ในการเข้าถึงข้อมูลเอาไว้ ผู้ใช้งานทั่วไปจะไม่ได้เข้ามายุ่งกับข้อมูลสำคัญของคุณ ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้

1. คลิกที่ปุ่ม Start > Run
2. พิมพ์คำว่า GPEDIT.MSC ลงไป แล้วคลิก OK
3. เข้าไปที่ User Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Windows Explorer
4. แล้วดับเบิลคลิกที่ Hide these specified drives in My Computer (อยู่ฝั่งขวามือ)
5. จากนั้นคลิกตัวเลือก Enabled แล้วเลือกว่าจะซ่อนไดร์ฟไหน แล้วคลิก OK เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีใครเห็นไดร์ฟที่คุณซ่อนไว้แล้ว